“ในทุกๆ วัน จะมีเด็กไทย 7 คนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ ขณะที่เด็กอีกกว่า 200 คนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งจำนวนหนึ่งมีอาการสาหัส”  ในฐานะผู้ดำเนินงานด้านความปลอดภัยทางถนนของประเทศไทย องค์การช่วยเหลือเด็ก (Save the Children) และภาคีเครือข่าย ได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาและวิตกกังวลต่อคุณภาพชีวิตของเด็กไทยในอนาคตเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มเด็กนักเรียนราว 1.3 ล้านคนที่เดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ แต่มีเพียงร้อยละ 7 เท่านั้นที่สวมหมวกนิรภัย จึงได้ริเริ่มโครงการ 7 เปอร์เซนต์ (The 7% Project) เพื่อให้สังคมตระหนักถึงความสำคัญของหมวกนิรภัย โดยเฉพาะการสวมหมวกนิรภัยในกลุ่มเด็ก เพราะเชื่อว่าการสร้างเสริมพฤติกรรมเคยชินที่ดีต่อเด็กๆ จะปลุกพลังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นสังคมแห่งความปลอดภัยในอนาคตได้อย่างยั่งยืน

โดยในปี พ.ศ. 2559 ได้กลายเป็นก้าวย่างสำคัญของโครงการ 7 เปอร์เซนต์ ในการขยายกลุ่มเป้าหมายของโครงการ และทำงานร่วมกับโรงเรียนทั้งสิ้น 281 โรงเรียน ภายใต้สังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานประถมศึกษา กทม. (สพป.กทม.) และสังกัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในปีแรกของระยะขยายผลนี้ โครงการมุ่งเน้นในเรื่องการสร้างกลุ่มคุณครูแกนนำหมวกนิรภัยจากโรงเรียนต่าง ๆ ในกรุงเทพ ซึ่งกลุ่มคุณครูได้กลับไปคัดเลือกและฝึกอบรมกลุ่มนักเรียน ให้ขึ้นมาเป็นแกนนำหมวกนิรภัยและจัดกิจกรรมอบรม สร้างเสริมทักษะ และความตระหนักในเรื่องหมวกนิรภัยและถนนปลอดภัยในโรงเรียนของตน รวมทั้งการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการพัฒนาการทำงานในลักษณะการบูรณาการเข้ากับตัวโครงการอย่างเต็มรูปแบบ โดยกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจแกนนำหมวกนิรภัยเหล่านี้ได้กลายเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันอันสำคัญในการรณรงค์เพื่อความปลอดภัยของเด็กและเยาวชนที่เดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ ทั้งนี้ มูลนิธิไทยโรดส์ได้มีส่วนร่วมสำรวจอัตราการสวมหมวกนิรภัยของเด็กนักเรียน ทั้งหมด 42 แห่งในกรุงเทพมหานคร เพื่อนำข้อมูลสำรวจมาพิจารณาและดำเนินโครงการในรูปแบบที่เหมาะสมกับโรงเรียน และสอดคล้องกับสถานการณ์ความปลอดภัยทางถนนต่อไป

 

รับผิดชอบโครงการ : มูลนิธิไทยโรดส์
ผู้สนับสนุน : Save the Children Foundation
ปีที่ดำเนินการ : 2559-2560